มานนท์ ชัยสาลี
หมวดหมู่ Interview คนดู 1,885 ครั้งโดย Admin เมื่อ March 09, 2011 20:04
บทสัมภาษณ์นี้เราจะมาคุยกับคุณ “มานนท์ ชัยสาลี” เจ้าของนามปากกา “ผู้ชายปอนด์ปอนด์” คอลัมนิสต์ในหนังสือตลกอารมณ์ดี “ฮิกาซีน” และเจ้าของผลงานพ็อกเก้ตบุ๊กสอบตกจนEnt’ติด ค่ะ
Q: อย่างที่ทราบแล้วว่าปัจจุบันพี่เป็นคอลัมนิสต์ให้กับหนังสือชื่อฮิกาซีน และเคยมีผลงานเป็นพ็อกเก้ตบุ๊กชื่อสอบตกจนเอนท์ติด ไม่ทราบว่าเคยมีผลงานอื่นอีกไหมคะ
ก็เคยทำคอลัมน์ในหนังสือของแพทยสภา อ่ะครับ ชื่อ ดร.รูม แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว
Q: ไม่ทราบว่าพี่เริ่มเขียนหนังสือมานานหรือยังคะ
น่าจะตอนเรียนจบใหม่ๆมั้งครับ เริ่มจากเขียนหนังสือรุ่น เพื่อนบอกว่าเขียนดีเลยได้ใจ เลยส่งผลงานไปสมัครงานชิ้นแรกก็ได้ตีพิมเลย (แต่เขาไม่รับเข้าทำงานแหะ) จากนั้นก็เขียนบล็อกไปสักพักหนึ่ง2-3ปีได้ แล้วพอมาเขียนในฮิๆ กับเริ่มต้นทำงานประจำก็เลยไม่ค่อยได้เขียนบล็อคอีกเลย
Q: พี่มองการเขียนเป็นอะไรสำหรับพี่คะ
อืม... ยากแหะ ถ้าเป็นตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่คิดว่าตัวเองทำได้ดี / เป็นงานอดิเรก / แล้วก็คิดว่าถ้าจัดการเรื่องอื่นๆในชีวิตเรียบร้อยแล้ว อาจจะเป็นงานที่ทำตอนเกษียรก็ได้ ซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่
Q: ไม่ทราบว่าพี่มีอะไรเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนผลงานแต่ละชิ้นคะ
เงินครับล้อเล่นนะ ก็ถ้าเป็นช่วงเขียนใหม่ ก็ถ้าคิดไอเดียใหม่ๆได้ก็จะเขียนเลย แต่ถ้า เป็นช่วงนี้ก็จะเขียนเฉพาะเรื่องที่สนใจจริงๆ โชคดีที่ฮิกาซีน ไม่กำหนดท็อปปิคให้จะให้อิสระนักเขียนมาก(มากกกกกกกก) ก็เลยเขียนแต่เรื่องที่สนใจจริงๆ
Q: ถึงยังไงพี่ก็มีนิยายเรื่องยาวอยู่ในฮิกาซีนที่จะต้องเขียนต่อไปเรื่อยๆ แล้ว ถ้าสมติว่าช่วงนั้นพี่ไม่มีแรงบันดาลใจที่จะเขียนเรื่องนั้นต่อได้...พี่จะมีวิธีการหาเรื่องมาเขียนยังไงอ่ะคะ
สำหรับพี่ ถ้าเป็นนิยายตอนต่อนี่แรงบันดาลใจไม่ค่อยเกี่ยวเลยนะ คือจะมีพล็อตคร่าวๆอยู่ในหัวอยู่แล้ว แต่พอเขียนไปก็แล้วแต่เรื่องพาไปเลย เวลาเขียนจริงๆบางทีเรื่องก็ต่างจากพล็อตที่เราตั้งไว้เลยก็บ่อย คือสำหรับนิยายพี่ว่ามันจะดำเนินไปได้ด้วยตัวมันเองอยู่แล้วอ่ะ หน้าที่เราก็แค่ถ่ายทอดมันออกมาเท่านั้น เมื่อไหร่ที่เราเขียนงานแล้วมีค่าตอบแทนสำหรับพี่นั้นหมายความว่า บางทีแรงบันดาลใจเป็นเรื่องรองไปเลยที่สำคัญกว่าคือความรับผิดชอบ เพราะเมื่อไหร่ที่เราทำงานแล้วมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นหมายความว่าบางครั้งงานชิ้นนั้นไม่ใช่ของเราคนเดียว บางทีเรื่องที่เราชอบอาจไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสำหรับนิตยสารในเวลานั้นๆก็ได้ โจทย์ที่ บก.ให้ก็จะเป็นเรื่องสำคัญ พี่คิดว่านักเขียนที่เก่งๆ ไม่จำเป็นต้องคิดนอกกรอบตลอดเวลา แต่นักเขียนที่เก่งจริงๆคือนักเขียนที่สามารถสร้างสรรค์ได้ไม่มีที่สิ้นสุดแม้จะมีกรอบเข้ามาควบคุม
Q: ตอนนี้ หลักในการทำ งานเขียนของพี่คืออะไร มีเทคนิคอะไรเป็นพิเศษไหมคะ
ถ้าตอนนี้ก็พยายามจะไม่ว่าใคร หรือ ไม่แสดงความเห็นที่กระทบกระเทือนกับคนอื่น (ถ้าไม่จำเป็น)อ่ะครับ ช่วงนี้อาจเป็นเพราะอายุเริ่มมากแล้วเลยจะคิดเยอะกว่าตอนยังเด็กๆ ส่วนเทคนิคก็คงไม่มีอะไรมากถ้าเป็นการเขียนคอลัมน์ที่มีกำหนดส่งที่ชัดเจนก็จะเขียนลงไปในคอมเลย แต่ถ้าเป็นเขียน พ็อคเก้ตบุ๊กจะเขียนด้วยดินสอลงไปในกระดาษก่อน แล้วค่อยพิมพ์อีกครั้ง เวลาได้ทบทวนหลายๆครั้งเนื้อเรื่อง และ ประเด็นจะคมกว่าต้นฉบับร่างแรก หลักอีกข้อ คือเกี่ยวกับเรื่อง การอีดิท คือพี่มีหลักในการทำงานกับบก.ว่า ตัดได้แต่ห้าม เติมหรือ อีดิทเนื้อเรื่อง ยกเว้นบางคนที่ยอมให้เป็นกรณีพิเศษ เช่น ท่านโอ๊ต เพราะรู้ว่า แนวทางการเขียนใกล้เคียงกันและเวลาโอ๊ตแก้งานของเราเค้าจะรู้ว่าเติมประมาณไหนแล้วยังโอเคอยู่
* ท่านโอ๊ตคือ บ.ก. และนักเขียนของฮิกาซีนค่ะ
Q: แอบไปอ่านๆงานเขียนพี่มา เห็นพี่เขียนงานมาหลายแนวมากตั้งแต่เรื่องชีวิตธรรมดา เสียดสีสังคม กีฬา ไปจนถึงจอมยุทธ์แล้วยังแนวอื่นๆอีกไม่ทราบว่าแนวไหนคือแนวที่สนใจที่สุดคะ
แล้วแต่ช่วงมั้งครับ จริงๆงานที่ทำประจำอยูไม่อยากจะบอกเลยว่า เป็น เอดิเตอร์ของเว็บไซท์ผู้หญิงด้วย(ซึ่งเป็นงานเขียนที่ยากที่สุดสำหรับพี่นะ) แต่น่าจะอยู่ที่ช่วงไหนสนใจอะไรมากกว่าอะครับ สำหรับงานเขียนแนวอื่นๆเราจะประมาณได้ว่างานไหนเอาอยู่ เอาไม่อยู่ แต่งานเขียนแนวนิตยสารผู้หญิงนี่ใหม่ๆ ไม่รู้เลย
Q: เวลาเจองานเขียนแนวที่เราไม่ถนัด พี่มีวิธีจัดการยังไงคะ
อ่านให้มากที่สุดอ่ะครับ แล้วก็ลองให้คนที่ถนัดแนวนั้นคอมเม้นท์เราดู สำหรับพี่โชคดีที่ทำงานกับน้องสาวซึ่งเขาเก่งในแนวที่พี่ไม่ถนัดอยู่แล้วเลยพอจะเอาตัวรอดไปได้เวลาเจองานที่เราไม่ถนัดบางทีสิ่งที่แย่ที่สุดคือ เราไม่รู้เลยว่าที่เราเขียนไปมันดี หรือ ไม่ดี เซนท์ตรงนี้มันจะไม่มีเลย ถ้าเราไม่มีครงนี้เลยก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีคนมาช่วยบอก สำหรับพี่ บก.จึงเป็นสิ่งสำคัญ
Q: ในฐานะที่เว็บนี้เป็นเว็บนักเขียนพี่มีอะไรอยากฝากถึงนัก (อยาก) เขียนที่เข้ามาอ่านบ้างไหมคะ
เขียนๆไปเถอะครับอย่าคิดให้มันมาก บางคนไม่เขียนซะทีเพราะตั้งใจจะเขียนงานชิ้นเอก เลยหรือ งานที่ยังไม่มีคนเขียน ซึ่งในชีวิตจริงมันไม่มีหรอก งานเขียนมันก็เหมือนยิงประตูฟุตบอลนั้นแหละ บางวันเราก็ยิงดี บางวันเราก็ยิงไม่ดี แต่ถ้าเราไม่ยิงเลย ก็ควรกลับไปเล่นวินนิ่งที่บ้านน่าจะสนุกกว่า
ได้ประโยชน์มากๆเลยค่ะ ได้ยินแบบนี้แล้วอยากลุกไปเขียนกันทันทีเลยใช่ไหมคะ